กฎหมายว่าด้วยการเลือกผู้ใหญ่บ้าน ล่าสุด

ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเลือกผู้ใหญ่บ้านน พ.ศ.2551

1. นิยาม
คณะกรรมการเลือก หมายความว่า คณะกรรมการเลือกผู้ใหญ่บ้านตามคำสั่งแต่งตั้งของนายอำเภอ
2. เหตุที่ต้องมีการเลือกผู้ใหญ่บ้าน
เมื่อมีการจัดตั้งหมู่บ้านใหม่ หรือตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านว่างลงด้วยเหตุใด ให้มีการเลือกผู้ใหญ่บ้านโดยวิธีลับ ภายในเวลา 30 วัน กรณีตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านใดว่างลงเพราะวันที่มีอายุครบ 60 ปี วันที่มีคำสั่งให้พ้น หรือวันที่ตาย ให้นายอำเภอจัดให้มีการเลือกผู้ใหญ่บ้านภายใน 30 วัน ถ้านายอำเภอไม่อาจจัดให้มีการเลือกผู้ใหญ่บ้าน ภายใน 30 วัน ให้รายงานผู้ว่าราชการจังหวัดขยายเวลาออกไป
3. การดำเนินการของอำเภอ
ที่เลือกผู้ใหญ่บ้าน ให้นายอำเภอกำหนด คูหาลงคะแนนให้มีจำนวน 3 คูหาเป็นอย่างน้อย การเปลี่ยนแปลงที่เลือกผู้ใหญ่บ้านให้กระทำก่อนวันเลือก ไม่น้อยกว่า 10 วัน และการเลือกผู้ใหญ่บ้านให้นายอำเภอดำเนินการดังนี้
1. ประกาศกำหนดให้มีการเลือกผู้ใหญ่บ้านภายใน 3 วัน
2. กำหนดวันรับสมัครภายในระยะเวลา 10 วัน ระยะเวลาการรับสมัครต้องไม่น้อยกว่า 3 วัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ
3. กำหนดวันเลือกตั้งต้องไม่เกิน 30 วัน นับแต่วันที่ผู้ใหญ่บ้านว่างลง
4. กำหนดให้เพิ่มชื่อ ถอนชื่อ ไม่น้อยกว่า 3 วัน ก่อนวันสุดท้าย
5. กำหนดวันประชุมราษฎร ภายใน 7 วัน นับแต่ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านว่างลง
4. คณะกรรมการตรวจสอบ
คณะกรรมการตรวจสอบ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวนไม่เกิน 3 คน และตัวแทนราษฎรผู้มีสิทธิเลือก จำนวนไม่น้อยกว่า 4 คน แต่ไม่เกิน 7 คน โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐให้นายอำเภอแต่งตั้งจากปลัดอำเภอหนึ่งคน และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ในเขตอำเภอนั้น ไม่เกิน 2 คน โดยประธานคณะกรรมการตรวจสอบ ให้ที่ประชุมคัดเลือกกันเอง และให้ปลัดอำเภอเป็นกรรมการและเลขานุการ
ตัวแทนราษฎร (4 คน แต่ไม่เกิน 7 คน) ให้เสนอในวันประชุมราษฎร และมีผู้ลงชื่อรับรองไม่น้อยกว่า 2 คน กรณีไม่มีผู้ประสงค์เป็นกรรมการตรวจสอบหรือมีแต่ไม่ถึง 4 คน ให้นายอำเภอพิจารณาแต่งตั้งราษฎรผู้มีสิทธิเลือกให้ครบตามจำนวน การประชุมกรรมการตรวจสอบต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง แต่ต้องไม่น้อยกว่า 3 คน
5. คณะกรรมการเลือก เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ผู้สังเกตการณ์
ให้นายอำเภอแต่งตั้งประธานกรรมการ เป็นผู้ดำเนินการเลือกกรรมการจากข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นไม่เกิน 9 คน และกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านในตำบลนั้นอีก 1 คน มาเป็นกรรมการเลือก และให้นายอำเภอแต่งตั้งเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยจากพนักงานฝ่ายปกครอง ตำรวจ หรือสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ไม่น้อยกว่า 2 คน และหลังจากนายอำเภอประกาศรายชื่อผู้สมัครแล้ว ผู้สมัครประสงค์จะส่งตัวแทนไปให้ยื่นหนังสือแต่งตั้งตัวแทนได้แห่งละ 1 คน ต่อนายอำเภอ
6. ผู้มีสิทธิเลือก และบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือก
กรณีพบรายชื่อตามแบบ ผญ.2 มีชื่อของผู้ไม่มีสิทธิเลือก หรือมีชื่อบุคคลเดียวกันมากกว่า 1 แห่ง ให้นายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร มีอำนาจถอนชื่อได้ และถ้าผู้มีสิทธิเลือก หรือเจ้าบ้าน เห็นว่ารายชื่อตามแบบ ผญ.2 มีชื่อของผู้ไม่มีสิทธิเลือก หรือมีชื่อของบุคคลเดียวกันมากกว่าหนึ่งแห่ง ให้ยื่นเรื่องต่อนายอำเภอ เพื่อขอให้ถอนชื่อออกจากบัญชีรายชื่อได้
7. วิธีการสมัครรับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน และวิธีการตรวจสอบคุณสมบัติ
ให้ผู้สมัครยื่นใบสมัครตามแบบพร้อมหลักฐานต่อไปนี้ด้วยตนเองต่อนายอำเภอ 1.บัตรประจำตัวประชาชน 2. สำเนาทะเบียนบ้าน 3. ใบรับรองแพทย์ 4. หลักฐานการศึกษา 5. รูปถ่ายขนาด 3.5 เซนติเมตร จำนวน 6 รูป และถ้าผู้ใดเห็นว่าผู้ยื่นใบสมัครเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ อาจร้องคัดค้านต่อกรรมการตรวจสอบภายใน 5 วัน
เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบได้รับมอบใบสมัคร ให้ตรวจสอบเอกสารให้เสร็จสิ้น และส่งถึงนายอำเภอภายในกำหนดเวลา 5 วัน และเมื่อนายอำเภอได้รับรายงานผลการตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว ให้นายอำเภอพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน
8. วิธีการเลือกผู้ใหญ่บ้าน
เวลา 07.30 น. ให้คณะกรรมการเลือกเปิดหีบบัตร และให้เปิดการลงคะแนนตั้งแต่เวลา 08.00 – 15.00 น. บัตรเลือกให้เย็บเป็นเล่ม เล่มละไม่เกิน 50 บัตร เมื่อพับบัตรแล้ว ด้านหน้ามีแถบสีอยู่บริเวณขอบขวา ถัดไปทางซ้ายมีตราครุฑ และถัดลงไปมีข้อความว่า “บัตรเลือกผู้ใหญ่บ้าน”
ถ้าการลงคะแนนไม่สามารถทำได้ ผลของการนับไม่ตรงกับจำนวน การนับไม่สามารถกระทำได้ ให้นายอำเภอรายงานผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อขอขยายเวลาให้มีการลงคะแนนใหม่ภายใน 7 วัน หรือถ้านายอำเภอได้รับรายงานว่าการลงคะแนนไม่สามารถทำได้เพราะเหตุสุดวิสัยให้นายอำเภอรายงานผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อขอขยายเวลาให้มีการนับคะแนนใหม่ภายใน 7 วัน
เมื่อนายอำเภอได้รับผลการนับคะแนน ให้ออกคำสั่งแต่งตั้งผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด ข้อความว่า “ได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน” แล้วรายงานผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อออกหนังสือสำคัญ
9. การคัดค้านการเลือกและการทำลายบัตรเลือก
เมื่อนายอำเภอมีคำสั่งแต่งตั้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใดเห็นว่าการเลือกเป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ให้ทำคำร้องคัดค้านเป็นหนังสือยื่นต่อนายอำเภอ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่นายอำเภอมีคำสั่งแต่งตั้ง เมื่อนายอำเภอได้รับหนังสือร้องคัดค้านแล้ว ให้ดำเนินการสอบสวน แล้วรายงานผลการสอบสวนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดวินิจฉัย หากเห็นว่าการเลือกผู้ใหญ่บ้านเป็นไปตามที่มีการคัดค้าน ให้สั่งให้พ้นจากตำแหน่งภายใน 90 วัน นับแต่วันที่นายอำเภอมีคำสั่งแต่งตั้ง
กรณีมีผู้ทักท้วงการวินิจฉัยบัตรเลือก ในระหว่างการนับคะแนน เนื่องจากการวินิจฉัยบัตรดี บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน บัตรเสีย ว่าเป็นไปโดยไม่ถูกต้อง และได้ร้องก่อนที่นายอำเภอจะมีคำสั่งแต่งตั้งผู้ใหญ่บ้าน ให้นายอำเภอตรวจสอบให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วัน หรือถ้าจำนวนผู้มาใช้สิทธิกับจำนวนบัตรที่ใช้ในการลงคะแนนไม่เท่ากัน (บัตรเกินหรือบัตรหาย) ให้รายงาน ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้มีการลงคะแนนใหม่ และนายอำเภอจะทำลายบัตรเลือกได้ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาคัดค้านการเลือกแล้ว ไม่น้อยกว่า 7 วัน กรณีมีการคัดค้านให้นายอำเภอรักษาหีบบัตรจนกว่าจะถึงที่สุด
**************************************
ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการเลือกผู้ใหญ่บ้าน พ.ศ. 2551
บทนำ
การเลือกผู้ใหญ่บ้านเป็นกระบวนการที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการปกครองในระดับท้องถิ่นของประเทศไทย เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใสและสอดคล้องกับกฎหมายและรัฐธรรมนูญปัจจุบัน กระทรวงมหาดไทยจึงได้ออก "ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเลือกผู้ใหญ่บ้าน พ.ศ. 2551" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวางแนวทางที่ชัดเจน เป็นธรรม และป้องกันการทุจริตในการเลือกตั้ง
1. หลักการสำคัญของระเบียบ
ปรับปรุงระเบียบเดิมให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 2550
ยืนยันสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในการเลือกตั้ง
เน้นความสุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม และตรวจสอบได้
กำหนดบทบาทของเจ้าหน้าที่รัฐอย่างชัดเจน และห้ามใช้อำนาจโดยมิชอบ
2. คำจำกัดความสำคัญ
หน่วยเลือกผู้ใหญ่บ้าน : ท้องที่ที่กำหนดให้มีการเลือกตั้ง
ที่เลือกผู้ใหญ่บ้าน : สถานที่ที่ใช้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง : บุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย
ผู้สมัคร : บุคคลที่ยื่นใบสมัครเพื่อรับการเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน
คณะกรรมการเลือก : คณะผู้มีหน้าที่ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง
คณะกรรมการตรวจสอบ : คณะผู้มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร
3. กระบวนการจัดการเลือกตั้ง
3.1 การดำเนินการเบื้องต้นโดยนายอำเภอ
ประกาศกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 30 วันนับแต่วันที่ตำแหน่งว่าง
จัดประชุมชี้แจงราษฎรเกี่ยวกับกติกาและแนวทางการเลือกตั้ง
เปิดรับสมัครผู้สมัครตามกำหนดเวลา
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งและสถานที่เลือกตั้ง
3.2 การกำหนดสถานที่เลือกตั้ง
ต้องเลือกสถานที่สาธารณะที่เป็นกลาง เช่น โรงเรียน หรือวัด
หากจำเป็นสามารถใช้สถานที่อื่นที่สะดวก เช่น บ้านราษฎร
ต้องจัดคูหาลงคะแนนไม่น้อยกว่า 3 คูหา
3.3 การหาเสียงเลือกตั้ง
หาเสียงได้ภายในกรอบที่กฎหมายกำหนด
ห้ามโฆษณาหาเสียงในวันเลือกตั้ง
ห้ามใช้วิทยุ โทรทัศน์ หรือหอกระจายข่าวเพื่อโฆษณาเฉพาะรายบุคคล
4. ขั้นตอนการสมัครรับเลือกตั้ง
4.1 คุณสมบัติของผู้สมัคร
มีคุณสมบัติครบถ้วนและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายปกครองท้องที่
ต้องยื่นใบสมัครด้วยตนเอง พร้อมเอกสารหลักฐาน เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบรับรองแพทย์ หลักฐานการศึกษา และรูปถ่ายตามที่กำหนด
4.2 การจัดลำดับหมายเลขผู้สมัคร
ผู้สมัครที่มายื่นใบสมัครก่อน จะได้รับหมายเลขก่อน
หากมีผู้สมัครมายื่นพร้อมกัน จะจับสลากเพื่อลำดับหมายเลข
หลังจากรับหมายเลขแล้ว ไม่สามารถถอนการสมัครได้
4.3 กรณีมีผู้สมัครเพียงคนเดียว
หากมีเพียงผู้สมัครเดียวที่ผ่านคุณสมบัติครบถ้วน ถือว่าได้รับเลือกตั้งทันที
นายอำเภอประกาศผลโดยไม่ต้องจัดการลงคะแนน
5. กระบวนการลงคะแนนและนับคะแนน
5.1 การลงคะแนน
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องแสดงตัวตามบัญชีรายชื่อ
ลงคะแนนในคูหาลงคะแนนที่จัดเตรียมไว้
การลงคะแนนต้องเป็นไปโดยลับ ไม่มีการเปิดเผยผู้เลือก
5.2 การนับคะแนน
นับคะแนนอย่างเปิดเผย ณ หน่วยเลือกตั้ง
มีตัวแทนผู้สมัครและผู้สังเกตการณ์ร่วมสังเกตการณ์ได้
ประกาศผลคะแนนต่อสาธารณะหลังนับเสร็จทันที
6. บทบาทของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
6.1 คณะกรรมการตรวจสอบ
ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร
สืบสวนกรณีมีการร้องเรียนหรือตรวจพบข้อบกพร่อง
ต้องวินิจฉัยภายในเวลาที่กำหนด เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเลือกตั้ง
6.2 คณะกรรมการเลือก
ดำเนินการรับสมัคร ดูแลหน่วยเลือกตั้ง
จัดเตรียมบัตรเลือกตั้ง หีบบัตร และคูหาลงคะแนน
นับคะแนนและรายงานผลต่ออำเภอ
6.3 เจ้าหน้าที่รักษาความสงบ
ดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัย ณ หน่วยเลือกตั้ง
สนับสนุนการดำเนินการของคณะกรรมการเลือก
6.4 ผู้สังเกตการณ์เลือกตั้ง
เป็นตัวแทนของผู้สมัครที่ได้รับอนุญาต
สังเกตการณ์การลงคะแนนและนับคะแนนโดยไม่แทรกแซง
7. การคัดค้านและการร้องเรียน
ผู้มีส่วนได้เสียสามารถร้องคัดค้านคุณสมบัติของผู้สมัครได้
คณะกรรมการตรวจสอบต้องพิจารณาข้อร้องเรียนอย่างเป็นธรรม
การสืบสวนต้องให้โอกาสชี้แจงแก่ผู้ถูกกล่าวหาอย่างเพียงพอ
ต้องมีการบันทึกกระบวนการและการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการ
8. สรุป
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเลือกผู้ใหญ่บ้าน พ.ศ. 2551 เป็นการกำหนดแนวทางการเลือกตั้งที่ครอบคลุม และละเอียดในทุกขั้นตอน เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน และยกระดับมาตรฐานความสุจริต โปร่งใสของการปกครองท้องถิ่น กระบวนการตั้งแต่การเปิดรับสมัครจนถึงการประกาศผลเลือกตั้ง ได้ถูกวางแนวทางอย่างชัดเจน และตรวจสอบได้ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างแท้จริงจากประชาชนในหมู่บ้าน