แนวข้อสอบพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. 2479

แนวข้อสอบพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน .. ๒๔๙๗

๑. พระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ.๒๔๙๗ ใช้บังคับเมื่อใด

          ก. ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๗

          ข. ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๗         

          ค. ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๗

          ง. ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๗

          จ. ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๗

๒. ให้กองอาสารักษาดินแดนเป็นองค์การขึ้นอยู่ในกระทรวงใด

          ก. กระทรวงกลาโหม     

          ข. กระทรวงมหาดไทย   

          ค. กระทรวงยุติธรรม

          ง. ข้อ ก. และ ข.                    

          จ. ข้อ ค. และ ง.

๓. กองอาสารักษาดินแดนแบ่งออกเป็นกี่ส่วน

          ก. ๒              

          ข. ๓              

          ค. ๔              

          ง. ๕              

          จ. ๖

๔. คณะกรรมการกลางกองอาสารักษาดินแดน มีจำนวนกี่คน

          ก. ไม่น้อยกว่า ๕ คน และไม่เกิน ๑๐ คน

          ข. ไม่น้อยกว่า ๗ คน และไม่เกิน ๑๕ คน

          ค. ไม่น้อยกว่า ๘ คน และไม่เกิน ๑๕ คน

          ง. ไม่น้อยกว่า ๑๐ คน และไม่เกิน ๑๕ คน

          จ. ไม่น้อยกว่า ๑๐ คน และไม่เกิน ๒๐ คน

๕. ข้อใดมิใช่อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการกลางกองอาสารักษาดินแดน 

          ก. กำหนดยศ ชั้น ของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน 

          ข. กำหนดยศ เหล่าของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน 

          ค. กำหนดการใช้จ่ายและงบประมาณของกองอาสารักษาดินแดน 

          ง. กำหนดหลักสูตร การอบรม และการฝึก

          จ. ไม่มีข้อใดถูก

๖.  กองอาสารักษาดินแดนส่วนภูมิภาคประกอบด้วย 

          ก. กองอาสารักษาดินแดนภาค 

          ข. กองอาสารักษาดินแดนจังหวัด 

          ค. กองอาสารักษาดินแดนอำเภอ 

          ง. ข้อ ข. และ ค.

          จ. ถูกทุกข้อ

๗. ตำแหน่งผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ ตลอดจนอำนาจการปกครองบังคับบัญชา รวมทั้งการกำหนดอัตรากำลังของแต่ละหน่วยในกองอาสารักษาดินแดน ให้กำหนดโดย……………..

          ก. พระราชบัญญัติ                           

          ข. พระราชกฤษฎีกา               

          ค. กฎกระทรวง 

          ง. ประกาศกระทรวง                           

          จ. คำสั่ง

๘. วินัยและการลงโทษผู้กระทำผิดวินัยของเจ้าหน้าที่และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ให้เป็นไป

ตามกฎหมายใด 

          ก. กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน 

          ข. กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครู 

          ค. กฎหมายว่าด้วยวินัยข้าราชการตำรวจ

          ง. กฎหมายว่าด้วยวินัยข้าราชการทหาร

          จ. กฎหมายว่าด้วยวินัยกองอาสารักษาดินแดน

๙. ในท้องที่ใดไม่มีบุคคลสมัครเข้าเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนหรือมีบุคคลสมัครไม่เพียงพอตามความต้องการ จะกำหนดให้ท้องที่นั้นมีการเรียกบุคคลให้สมัครเพื่อคัดเลือกเข้าเป็นสมาชิกโดย…………….ก็ได้

          ก. พระราชบัญญัติ                           

          ข. พระราชกฤษฎีกา               

          ค. กฎกระทรวง 

          ง. ประกาศกระทรวง               

          จ. คำสั่ง

๑๐. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน

          ก. มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ในท้องที่ที่เข้าเป็นสมาชิก 

          ข. มีสัญชาติไทย 

          ค. มีอายุตั้งแต่ ๒๐ ปีบริบูรณ์  แต่ไม่เกิน ๖๐ ปีบริบูรณ์ 

          ง. ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ

          จ. ข้อ ข. และ ค.

๑๑. สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนมีกี่ประเภท

          ก. ๒              

          ข. ๓              

          ค. ๔              

          ง. ๕              

          จ. ๖

๑๒.  ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง 

          ก. ข้าราชการที่เป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจะปฏิบัติหน้าที่ของกองอาสารักษาดินแดนได้ในเมื่อไม่ติดราชการจำเป็น 

          ข. การรับบุคคลเข้าเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อรับสมัครหรือคัดเลือก

          ค. เมื่อประกาศใช้กฎอัยการศึกในท้องที่ใด ให้เจ้าหน้าที่และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอยู่ในบังคับบัญชาเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร

          ง. ข้อ ข. และ ค.

          จ. ถูกทุกข้อ

๑๓.  กองอาสารักษาดินแดนส่วน มีหน้าที่อย่างไรบ้าง 

          ก. บรรเทาภัยที่เกิดจากธรรมชาติและการกระทำของข้าศึก 

          ข. รักษาสถานที่สำคัญและการคมนาคม 

          ค. ป้องกันการจารกรรม สดับตรับฟัง และรายงานข่าว 

          ง. ทำหน้าที่ตำรวจรักษาความสงบในท้องที่ร่วมกับพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ

          จ. ถูกทุกข้อ

๑๔. ผู้ใดรักษาการตามพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน ฯ

          ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย     

          ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

          ค. นายกรัฐมนตรี (เฉพาะที่เกี่ยวกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ)

          ง. ข้อ ก. และ ข.                    

          จ. ถูกทุกข้อ

๑๕. ผู้ใดแต่งเครื่องแบบ หรือประดับ หรือใช้ธง หรือเครื่องหมายที่กำหนดขึ้นตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายฉบับนี้ โดยไม่มีสิทธิที่จะแต่ง ประดับ หรือใช้ มีความผิดต้องระวางโทษอย่างไร

          ก. ปรับไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท หรือจำคุกไม่เกิน ๑ เดือน

          ข. ปรับไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท หรือจำคุกไม่เกิน ๑ เดือน หรือทั้งปรับทั้งจำ

          ค. ปรับไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท หรือจำคุกไม่เกิน ๑ ปี

          ง. ปรับไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท หรือจำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ

          จ. ปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือจำคุกไม่เกิน ๒ ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ

๑๖. เครื่องแบบสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนมีกี่ประเภท

          ก. ๒              

          ข. ๓              

          ค. ๔              

          ง. ๕              

          จ. ๖

๑๗.  ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง 

          ก. ผู้บัญชาการสั่งใช้กำลังของกองอาสารักษาดินแดนได้ทั่วราชอาณาจักร

          ข. ผู้บังคับการจังหวัดสั่งใช้กำลังของกองอาสารักษาดินแดนได้ภายในเขตพื้นที่ของจังหวัด

          ค. ผู้บังคับกองร้อยสั่งใช้กำลังของกองอาสารักษาดินแดนได้ภายในเขตพื้นที่ของอำเภอ

          ง. การสั่งใช้กำลังของกองอาสารักษาดินแดนเพื่อปฏิบัติการตามหน้าที่โดยไม่ใช้อาวุธ ผู้มีอำนาจสั่งใช้ได้เต็มตามอัตรากำลังที่มีอยู่

          จ. ถูกทุกข้อ

๑๘. ผู้บัญชาการ ใช้อักษรย่อว่า…………..

          ก. ผ.บ.ช                   

          ข. ผบ.ช          

          ค. ผบช.          

          ง. ผ.บช.

          จ. ไม่มีข้อใดถูก

๑๙. ผู้ใดเป็นผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน

          ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย     

          ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

          ค. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

          ง. ปลัดกระทรวงมหาดไทย                 

          จ. ข้อ ก. และ ข.

๒๐. ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชากองร้อย

          ก. ผู้ว่าราชการจังหวัด             

          ข. ปลัดจังหวัด            

          ค. นายอำเภอ   

          ง. ปลัดอำเภอ                       

          จ. ไม่มีข้อใดถูก

เฉลยแนวข้อสอบพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน

..๒๔๙๗

ข้อ ๑.

ข้อ ๖.

ข้อ ๑๑.

ข้อ ๑๖.

ข้อ ๒.

ข้อ ๗.

ข้อ ๑๒.

ข้อ ๑๗.

ข้อ ๓.

ข้อ ๘.

ข้อ ๑๓.

ข้อ ๑๘.

ข้อ ๔.

ข้อ ๙.

ข้อ ๑๔.

ข้อ ๑๙.

ข้อ ๕.

ข้อ ๑๐.

ข้อ ๑๕.

ข้อ ๒๐.